9 ก.ย. 2555

แจ้งการย้ายบล็อก

บล็อกนี้ หรือ http://thai-usedbook.blogspot.com จากนี้คงงดอัพเดทแล้ว
ทว่าจะไปหมั่นอัพเดทอีกบล็อกหนึ่งแทน ตอนนี้กำลังไล่เก็บโพสต์เก่าๆ ของที่นี่อยู่

ท่านใดที่สนใจหนังสือมือสอง ก็สามารถตามไปดูได้ที่...
http://see-books.blogspot.com 

หรือไปดูที่ร้านไลฟ์บุ๊กก็ได้เช่นกัน
ร้านหนังสือมือสอง Life Book


จึงบอกกล่าวเพื่อให้ทราบ

ขอขอบพระคุณทุกท่านอย่างสุดซึ้ง

.

6 ก.ย. 2555

โลกส่วนตัวของศิลปินอัจฉริยะ พีคัสโซ่


โลกส่วนตัวของศิลปินอัจฉริยะ พีคัสโซ่ หนังสือที่บอกให้เรารู้ว่า
ภายใต้ชื่อ พีคัสโซ่ (Picasso) ศิลปินที่ได้รับการยกย่องเป็นอัจฉริยะแห่งงานศิลป์นั้น
เขามีตัวตนและมีวิถีชีวิตที่งดงามเพียงใด ภายใต้ดวงตากลมโต ดุดัน น่ากลัวคู่นั้นของเขา
ซ่อนเร้นจิตใจที่อ่อนโยนต่อเด็กและสัตว์เลี้ยงในบ้านเอาไว้
ด้วยบทบัญญัติในบ้านของเขา คือห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของทุกชนิด สิ่งของทุกอย่างจะต้องอยู่ที่เดิมของมัน
การเคลื่อนย้ายสิ่งของให้ผิดที่ผิดทาง ถือว่าเป็นการทำลายองค์ประกอบให้เสียหาย
แต่บัญญัติดังกล่าวมิได้ครอบคลุมถึงเด็กและสัตว์ในบ้าน
เพราะเขาถือว่าเด็กทั้งหลายย่อมเกิดมาเพื่อจะทำอะไรของตนได้อย่างเสรี
เมื่อพวกเด็กมาเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือกระทั่งรูปเขียนของเขา
พิคัสโซ่ก็จะพูดเพียงว่า “ดี ดี” หรือไม่ก็ “เข้าท่าดี” เท่านั้นเอง

Pablo Ruiz Picasso
หนังสือมือสองเล่มนี้เป็นหนังสือที่เขียนโดยช่างภาพชื่อดังระดับโลก เดวิด ดักลาส ดันแคน
แปลโดย ณรงค์ จันทร์เพ็ญ

สิ่งหนึ่งที่หนังสือบอกกับเรามากกว่าความเป็นศิลปินชื่อดังก็คือ ความคิดและตัวตนของพีคัสโซ่
ที่ทำให้เขาเป็นอัจฉริยะแห่งงานศิลป์ที่ผู้คนทั่วโลกยอมรับด้วยความคิดที่ว่า...
“ศิลปินที่แท้จริงไม่มีใครที่พึงมีคุณสมบัติของการหยุดนิ่ง ทั้งทางความคิดและการลงมือปฏิบัติ 
เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้วความเป็นศิลปินของผู้นั้นก็จะค่อยๆ 
ถูกกร่อนกัดด้วยเขี้ยวคมของกาลเวลาให้ดับสิ้นไปอย่างน่าเสียดาย...”

ผู้เขียน : เดวิด ดักลาส ดันแคน
ผู้แปล : ณรงค์ จันทร์เพ็ญ
จำนวน :  ๘๐ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ไรเตอร์
พิมพ์ครั้งที่ : ๒
เดือนปีที่พิมพ์ : มกราคม  ๒๕๓๗

เมื่อเสร็จงานแล้ว ข้าพเจ้า (เดวิด ดักลาส ดันแคน) ถามพีคัสโซ่ว่า...
มีภาพใดที่เขาต้องการจะไม่ให้ใช้ในหนังสือบ้างหรือไม่
พีคัสโซ่ตอบข้าพเจ้าด้วยอาการฉงนฉงายว่า
"ทำไมคุณจึงคิดอย่างนั้น นี่มันเป็นงานของคุณเองแท้ๆ
รูปที่ถ่ายก็เป็นรูปตามที่คุณมองเห็นผมเอง มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นี่นา"

.

1 ก.ย. 2555

เรียงความ


ศิลปินเขียนรูปใช้สีเป็นถนนสำหรับการเดินทาง คนตาบอดจินตนาการถึงสีที่อยากจะเห็น
ดอกไม้ได้สีมาจากอากาศ ดิน และน้ำ 
หนุ่มสาวที่อยู่ในห้วงความรัก เขาบอกว่าเห็นโลกเป็นสีชมพู 
แต่โลกวันนี้กำลังมืดมิดเป็นสีดำเพราะหัวใจของผู้คนแล้งไร้น้ำใจ


เมื่อมีโลกครั้งแรกๆ สีสันเป็นเช่นนี้เลยหรือเปล่านะ
และสมมุติว่าโลกมีแต่สีขาวดำ ใครบางคนถามว่าใจมนุษย์จะงดงามหรือตกต่ำลง
และเลือดจะไม่เป็นสีแดงอีกแล้วใช่ไหม

งานศพ-สีดำ งานแต่งงาน-สีขาว ธรรมชาติ-สีเขียว
วันอาทิตย์-สีแดง สงคราม-สีเลือด น้ำตาสีอะไร?
คนเราร้องไห้เสมอในยามทุกข์โศก และคนเศร้ามักมองไม่เห็นว่าสีใดๆ สวย

โลกมีการแสดงใหญ่เล็กมากมาย สีเป็นการแสดงอย่างหนึ่งของโลก
บางสีทำให้คนเรารัญจวน บางสีอิ่มไปด้วยความเศร้า
อีกบางสีผสมกันไปมาชวนให้รู้สึกว่าบ้าคลั่ง
สีคงอยู่เฉยๆ อารมณ์ต่างหากที่เดินทางเข้าไปหา...

ทุกอย่างเปลี่ยนสีเมื่อถึงเวลาอันสมควร
เส้นผมของคนเรามีสีขาวรออยู่ แสงแดดในแต่ละฤดูมีสีที่ไม่เท่ากัน
ความฝันของคนชรามีสีจืดชืดกว่าคนหนุ่มสาว
รุ้งกินน้ำอิ่มแล้วจึงมีสีทั้งเจ็ดอยู่ในตัว
คนในกรุงเทพฯ ชอบสีเขียวของไฟจราจรมากกว่าสีแดง
คนต่างจังหวัดชอบสีคล้ำๆ ของเมฆ
เพราะไม่นานฝนอาจตกลงมาเพื่อพลิกแผ่นดินให้ชุ่มฉ่ำ...

(เนื้อเรื่องบางตอนจากหนังสือมือสองเล่มนี้)

เรียงความ / ญามิลา


ผู้เขียน    : ญามิลา (วิรัตน์ โตอารีย์มิตร)
จำนวน    :  ๒๐๖ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์    : ไม้ไต่เขียน
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    : สิงหาคม ๒๕๔๔


ผมเห็นว่าเขาแฝงอุดมคติไว้ในประโยคที่แสร้งเสียดสี
เขาเร้นจรรยาบรรณไว้ในวลีที่ทำทีว่าเย้ยหยัน... (อาจินต์ ปัญจพรรค์)

"ญามิลา" ผมชอบนามปากกานี้ พอๆ กับสิ่งที่เขาเขียน เพราะเขาเขียนขึ้นจากสิ่งที่เขารู้สึกและสัมผัส
หรือเป็นการผสมผสานขึ้นระหว่างความเป็นจริงกับจินตนาการ จากบทเพลง บทกวี... (ชีวี ชีวา)

วิธีหยิบเอา 'ความ' มา 'เรียง' ของญามิลา มีจังหวะและน้ำเสียงเฉพาะตัว 
คนอ่านหนังสือจะพบความนิ่งเนียนและลื่นไหลในเรียงความของเขา... (อธิคม คุณาวุฒิ)

.

28 ส.ค. 2555

ตะลุยเมืองแขกแหวกส่าหรี


เมื่อได้ไปยืนมองเทือกเขาหิมาลัยที่ขอบหลังคาโลก ยิ่งรู้สึกว่าโลกนี้ช่างมหัศจรรย์เหลือเกิน
แล้วถ้าได้ไปยืนมองหิมาลัยจากฝั่งอินเดียล่ะ? มันจะอารมณ์ไหน
นั่นจึงเป็นที่มาของการ "ตะลุยอินเดีย" ในครั้งนี้
แม้จะมีคำขู่และคำพูดถึงอินเดียในแง่ลบมากมาย ยัดเยียดเข้ามาให้รกสมอง
แต่ด้วยความเชื่อมั่นเหลือเกินว่า แผ่นดินภารตะนั้นมีดีอย่างที่หลายคนคาดไม่ถึง

เรื่องเสน่ห์มนตรานั้นไม่ต้องพูดถึง อินเดียมีอยู่เหลือเฟือ
"สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น" เมื่อได้ไปสัมผัสเองถึงร้องอ๋อ
อินเดียมีหลายมิติ หลากรสชาติ ให้ทำความรู้จัก
ไม่ใช่แค่อนุสรณ์สถานแห่งรักอันยิ่งใหญ่อย่างทัชมาฮาล (ताजमहल,  تاج محل, Taj Mahal) เท่านั้น
แผ่นดินชมพูทวีปแห่งนี้ ยังมีป้อมปราการ ตลาด สุเหร่า  สุสาน ส่าหรี ส้วม
อูฐ ร้านกาแฟ และผู้คนในเมืองต่างๆ ให้ทำความรู้จัก



ตะลุยเมืองแขกแหวกส่าหรี


ผู้เขียน    : กาญจนา หงษ์ทอง
จำนวน    :  ๑๕๒ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์    : เนชั่นบุ๊คส์
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    : กันยายน ๒๕๔๕


ออกตัวก่อนว่าไม่ใช่นักเดินทางประเภทเซียน
เพียงแค่หัวใจมันซุกซน ชอบเดินทางท่องเที่ยวมาแต่ไหนแต่ไร
เพื่อนบอกอีนี่ท่าจะบ้า เที่ยวไม่ลืมหูลืมตา เที่ยวได้อย่างไม่รู้เบื่อ จนบ่อยครั้งนึกประหลาดใจตัวเอง
ปัจจุบันมีอาชีพหลักเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ขีดๆ เขียนๆ จำพวกข่าวหุ้น-การเงิน
แค่ใครอย่าได้เผลอมาขอค่าปรึกษาเรื่องหุ้นหรือค้าเงินเป็นอันขาด อาจเจ๊งไม่รู้ตัว นี่เป็นคำเตือน
แต่ถ้าขอคำแนะนำเรื่องเที่ยวละก็ถึงไหนถึงกัน
หลายครั้งถูกถากถางประชดประชันจากเพื่อนฝูงว่าเป็น ททท. สาขาเนชั่น ทาวเวอร์
รับปรึกษาเรื่องเที่ยวทั่วราชอาณาจักร
ทุกวันนี้ พยายามสนองนโยบายรัฐ ด้วยการเที่ยวไทยซ้ำไปซ้ำมา
มีบ้างที่แอบนอกใจไทยแลนด์แดนสไมล์ หนีไปเที่ยวเมืองนอกเป็นครั้งคราว
แต่สาบานได้ ว่ายังไม่เบื่อเมืองไทย...

หนังสือมือสองเล่มนี้ เนื้อในมีพิมพ์สี่สีแทรกประกอบเนื้อเรื่อง

.

26 ส.ค. 2555

นางอันเป็นที่รักของกษัตริย์ศิลปิน



พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงปราดเปรื่องอย่างยิ่งในด้านอักษรและการละคร
พระราชประวัติ "นางอันเป็นที่รัก" ของพระองค์นั้นทรงคุณค่าและน่าศึกษาอย่างยิ่ง
เนื่องเพราะพระมเหสีแต่ละพระองค์ก็ทรงมีพระปรีชาสามารถและทรงมีคุณูปการต่อบ้านเมืองด้วยเช่นกัน
อีกทั้งเรื่องราวแห่งราชาปฏิพัทธ์นั้นก็สูงค่าประหนึ่งเพชรวรรณกรรมอันซาบซึ้งด้วยความโรแมนติก
ในพระราชนิพนธ์ที่ทรงพระราชทานพระมเหสีแต่ละพระองค์ด้วยความรัก
และพระนางทุกพระองค์ก็ทรงจงรักภักดีต่อล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ อย่างซาบซึ้งแม้สิ้นรัชกาลไปนับนานแล้วก็ตาม

นางอันเป็นที่รักของกษัตริย์ศิลปิน

สารบัญ
๑. สมเด็จเจ้าฟ้าชายมหาวชิราวุธสยามมกุฏราชกุมาร พระองค์ที่ ๒ แห่งราชวงศ์จักรี
๒. รักแรกของกษัตริย์ศิลปิน เมื่อพระชมมายุ ๔๐ พรรษา
๓. พระนางเธอลักษมีลาวัณ
๔. สมเด็จพระนางเจ้าอินทรศักดิศจี พระวรราชชายา
๕. พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี
๖. ภาคนวก กลอนพระราชนิพนธ์

ผู้เขียน    : กันยาบดี
จำนวน    :  ๑๑๒ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์    : บันทึกสยาม
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    : ๒๕๓๙

หนังสือมือสองเล่มนี้ยังมีภาคผนวกกลอนพระราชนิพนธ์
ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานแด่พระนางเธอลักษมีลาวัณ
ดังเช่น...

นั่งคำนึงถึงน้องผู้ต้องจิต
แม่มิ่งมิตร์ยอดรักลักษมี
ความรักรุกทุกทิวาและราตรี
บ่ได้มีสว่างรักสักเวลา
ในกลางวันสุริยันแจ่มกระจ่าง
เห็นหน้าน้องฟ่องกลางหว่างเวหา
ยามราตรีพี่พินิศพิศนภา
ก็เห็นหน้าโฉมตรูอยู่แทนจันทร์
ถึงยามนอนพี่นอนถอนใจใหญ่
แว่วเสียงใสรีบขยับขึ้นรับขวัญ
เห็นรูปนางข้างเตียงเคียงหมอนนั้น
หายโศกศัลย์นอนยิ้มกระหยิ่มใจ
เมื่อลมโชยกลิ่นผกากรอง
มาถูกต้องนาสาพาฝันใฝ่
ถึงยามเมื่อพี่ประโลมโฉมอุไร
หอมชื่นใจยอดมิ่งยิ่งมาลี

.


25 ส.ค. 2555

สิ้นกวีแผ่นดินสยาม อังคาร กัลยาณพงศ์


ฉัน​เอาฟ้าห่มให้ หายหนาว
ดึกดื่นกินแสงดาว ต่างข้าว
น้ำค้างพร่างกลางหาว หาดื่ม
ไหลหลั่งกวีไว้เช้า​ ชั่วฟ้าดินสมัย ๚... 


ศิลปินแห่งชาติคนนี้มีผลงานที่เรียกว่าไม่มีใครเทียบได้
ได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ ๒๕ สิงหาคม ๒๕๕๕ เมื่อเวลา ๐๑.๓๐ น.
อังคาร กัลยาณพงศ์ ศิลปินแห่งชาติ ด้านกวีนิพนธ์  วัย ๘๖ ปี
ได้เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบ  หลังจากป่วยเป็นเป็นโรคหัวใจและโรคเบาหวานมานาน
โดยมีพิธีรดน้ำศพ  ในเวลา ๑๗.๐๐ น. ที่วัดตรีทศเทพ
และจะมีการสวดพระอภิธรรมศพเป็นเวลา ๗ วัน ตั้งแต่วันที่ ๒๕-๓๑ สิงหาคมนี้

อังคาร กัลยาณพงศ์  เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๙
เป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช เป็นคนรักศิลปะและมีพรสวรรค์ด้านกวี
เข้าเรียนที่โรงเรียนเพาะช่าง  แล้วต่อที่คณะจิตรกรรมและประติมากรรมมหาวิทยาลัยศิลปากร
เป็นศิษย์ของ ศ. ศิลป พีระศรี, อ. เฟื้อ หริพิทักษ์ และ อ.เฉลิม นาคีรักษ์
โดยทำงานกับอาจารย์ทั้งด้านศิลปกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่อง

อังคาร กัลยาณพงศ์

ท่านอังคารเป็นผู้ที่ได้รับการยอมรับในฐานะเป็นจิตรกรและกวีที่คงความเป็นไทย
ทั้งในด้านความคิดและรูปแบบ อีกทั้งยังเป็นกวีที่มีความคิดเป็นอิสระ ไม่ถูกร้อยรัดด้วยรูปแบบที่ตายตัว
นับเป็นกวีผู้บุกเบิกกวีนิพนธ์ยุคใหม่ มีผลงานสร้างชื่อ อาทิ
ลำนำภูกระดึง, บางบทจากสวนแก้ว, บางกอกแก้วกำสรวล
หรือนิราศนครศรีธรรมราช, ปณิธานกวี  และหยาดน้ำค้างคือน้ำตาของเวลา ฯลฯ

รางวัลเกียรติคุณ
พ.ศ. ๒๕๑๕ รางวัลกวีดีเด่น ของมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป
พ.ศ. ๒๕๒๙ รางวัลซีไรต์ จาก ปณิธาณกวี
พ.ศ. ๒๕๓๒ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์

ในด้านการทำงานศิลปะ ท่านอังคารเคยเล่าไว้ว่า
จินตนาการสำคัญมาก เราต้องใช้จินตนาการแบบพระเจ้าสร้างโลก
“สมมติว่าเราเป็นพระเจ้า แล้วมีโจทย์ว่าเราจะสร้างโลก จะสร้างอย่างไร
มันก็น่าคิด สนุก จริงๆ มนุษย์ก็มีสิทธิได้ ถ้ามนุษย์เรียนรู้ลึกถึงขั้นอารยะจริงๆ เราก็สร้างได้”

ส่วนในด้านการแต่งบทกวี ท่านอังคารเล่าถึงแรงบันดาลใจไว้ว่า
มนุษย์เราก็ต้องมีมโนคติ มีจินตนาการ
มนุษย์เท่านั้นที่จะแปลความมหัศจรรย์ฉงนฉงายของจักรวาลให้มีความหมายในโลกมนุษย์
จักรวาลพยายามสร้างอะไร มันมีแต่หินผา ทุกดวงดาวมีแต่หินผา แร่ธาตุอื่น
แต่ไม่มีสติปัญญา แก้วสารพัดนึกที่จะแปลความหมายของจักรวาลอันลี้ลับนี้มาได้

ท่านอังคารยังมีคำกล่าวว่า..

"การวาดรูป​กับการ​แต่งบทกวี​ต้อง​ใช้​ความคิด​กับจินตนาการ อาจ​จะผิดกันในเรื่อง​เทคโนโลยี​กับเทคนิค ​
แต่​ใช้จิตใจดวงเดียวกัน ​ทั้งงานเขียนรูป​และเขียนหนังสือก็​ต้องอาศัยมโนคติ
บางคน​เขาเรียก อิมเมจิเนชั่น ​ต้องมีจินตนาการ​ความคิด เหมือนคน​ที่สร้างนครวัด
​เขา​ต้องมีภาพมาก่อนว่าทำอย่างไรจึง​จะมีปราสาทขึ้น​มา ​
ถ้าเรามีมโนภาพกว้างใหญ่ไพศาล เราก็​สามารถสร้างสรรค์อะไร​​ที่ใหญ่โตขึ้น​มา ​
ถ้ามีมโนภาพคับแคบก็สร้างสรรค์อะไร​อยู่​ในกะลาเท่านั้น​"

"คนอื่น​เขาอาจ​จะ​ไปทำขนมครก ​ไปรับเหมาทางด่วน ​ไปทำอะไร​ก็​ได้ ​
แต่กวี​ต้อง​เป็นกวีอยู่​ทุกลมหายใจ คือ​โดยหลักจริงๆ​ แล้ว​
ผมยังเขียนบทกวีอยู่​เรื่อยๆ​ ​จะชำระของ​ที่ดูไม่ค่อยเรียบร้อย​ให้เรียบร้อย​ ให้หมดจดขึ้น​
มีถ้อยคำ​ที่ลงตัว ​คือพูดง่ายๆ​ ว่า ​ถ้าเราตาย​ไปแล้ว​
เราก็หมดโอกาส​ที่​จะเปิดฝาโลงขึ้น​มาชำระโคลงของเราให้เรียบร้อย​
คน​ที่เขียนกวี ​ถ้าบทกวีชิ้นใดไม่สมบูรณ์ ก็เหมือนเรา​ไปปรโลกแล้ว​ยังมีห่วงอยู่​


***


๛เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดิดกินทราย

๛จะเจ็บจำไปถึงปรโลก
ฤารอยโศกรู้ร้างจางหาย
จะเกิดกี่ฟ้ามาตรมตาย
อย่าหมายว่าจะให้หัวใจ

๛ถ้าเจ้าอุบัติบนสวรรค์
ข้าขอลงโลกันตร์หม่นไหม้
สูเป็นไฟเราเป็นไม้
ให้ทำลายสิ้นถึงวิญญาณ

๛แม้แต่ธุลีมิอาลัย
ลืมเจ้าไซร้ชั่วกัลปาวสาน
ถ้าชาติไหนเกิดไปพบพาน
จะทรมานควักทิ้งทั้งแก้วตา

๛ตายไปอยู่ใต้รอยเท้า
ให้เจ้าเหยียบเล่นเหมือนเส้นหญ้า
เพื่อจดจำพิษช้ำนานา
ไปชั่วฟ้าชั่วดินสิ้นเอยฯ

.

24 ส.ค. 2555

พลังจิตใต้สำนึก


เป็นหนังสือที่มีประโยชน์ และสร้างสรรค์กำลังใจให้กับผู้คนมาแล้วมากมาย
ภาคภาษาอังกฤษ คือ The Power of Your Subconscious Mind เขียนโดย Dr. Joseph Murphy
มียอดจำหน่ายหลายล้านเล่ม และถูกถ่ายทอดมากกว่า ๒๐ ภาษา ทั่วโลก
ส่วนฉบับภาษาไทยตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๖
เป็นหนังสือประเภทสร้างสรรค์และพัฒนาตนเองที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางมากที่สุดเล่มหนึ่ง
มีส่วนช่วยเหลือผู้คนมากกว่าหนึ่งล้านคนทั่วโลกให้บรรรลุเป้าหมายอย่างน่ามหัศจรรย์
เพียงแค่พวกเขาหรือเธอกล้าที่จะแปลงเปลี่ยนวิถีแห่งความคิดเท่านั้น
เทคนิคการปฎิวัติจิตใจของ ดร.โจเซฟ เมอร์ฟี นั้นวางรากฐานอยู่บนกฎแห่งการปฎิบัติที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผล
ถ้าท่านเชื่อมั่นต่อบางสิ่งโดยปราศจากข้อกังขาและสร้างภาพสิ่งนั้นไว้ในจิตใจ
เท่ากับท่านได้เคลื่อนย้ายอุปสรรคภายในจิตใจใต้สำนึกที่กีดกันท่านเอาไว้มิให้บรรลุผล
และความเชื่อมั่นของท่านก็จะกลายเป็นจริงในที่สุด

พลังจิตใต้สำนึก



ผู้เขียน    :  ดร.โจเซฟ เมอร์ฟี
ผู้แปล    :  "ทศยุทธ"
จำนวน    :  ๒๘๖ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์    : เรือนบุญ
พิมพ์ครั้งที่    : ๕
เดือนปีที่พิมพ์    : ธันวาคม ๒๕๓๙


ภายในหนังสือมือสองเล่มนี้ รวบรวมไว้ด้วยกรณีศึกษาเรื่องราวความสำเร็จที่เกิดขึ้นจริง
ซึ่งจะช่วยชี้แนะชักนำไปสู่การปลดปล่อยพลังจิตเพื่อให้ได้รับการเลื่อนตำแหน่ง ชื่อเสียง
ความมั่งคั่งร่ำรวย สัมพันธภาพราบรื่น ชีวิตการแต่งงานที่ยั่งยืน เอาชนะความหวาดกลัวเกินเหตุ
ขจัดอุปนิสัยที่ไม่ดีทั้งหลาย นอนหลับอย่างมีความสุขแล้วตื่นขึ้นอย่างกระปรี้กระเปร่า
และแม้แต่บำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วย
จงเรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ใน "พลังจิตใต้สำนึก" แล้วท่านจะค้นพบว่า
มันสามารถขจัดอุปสรรคแห่งจิตใจที่ขวางกั้นระหว่างท่านกับเป้าหมายของชีวิตออกไปได้อย่างง่ายดายเพียงใด

ซึ่ง หนังสือมือสอง เล่มนี้ เป็นการตีพิมพ์ครั้งที่ ๕  เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๙ ก็ล่วงมาสิบห้าปีแล้ว...
ทว่าปัจจุบันยังได้รับกล่าวถึงและตีพิมพ์ซ้ำอยู่เสมอ
โดย "พลังจิตใต้สำนึก" หนังสือมือสองเล่มนี้ มีคำนิยมและคำวิจารณ์ของ อ.สรพล สุขทรรศนีย์,
ผศ.วดี ชาติอุทิศ, รศ.ศิรินันท์ ธนิตยวงศ์, ญามา กุลวัฒนันท์ชัย และ อ.สุภาภักตร์ ปรมาธิกุล

.

23 ส.ค. 2555

กถาจรดปกาศิต (สามแพร่งชีวิตคำฉันท์)


คมทวน คันธนู กวีซีไรต์บรรจงสู้ครูกวีโบราณ ฝากฝีมือแห่งยุคสมัย
คำฉันท์กว่า ๓๐ รูปแบบ ร่วมพันบท บันทึกประวัติศาสตร์เหตุการณ์ ๓ ช่วงของแผ่นดิน

วรรณคดีประเภทคำฉันท์ไม่เคยมีโอกาสขึ้นสู่ความนิยมของกวีทุกสมัย
อย่างมากก็ได้แค่เปล่งประกายแสงออกมาเพียงชั่วครั้งชั่งวคราว
และมีทีท่าว่าจะหดหายไปเรื่อยๆ ก่อนคำประพันธ์ประเภทอื่น

หนังสือมือสองเล่มนี้ ปกมอมแมมตามสภาพ ขณะเนื้อในกระดาษเหลืองตามขอบ สันหนังสือเหลือง

กถาจรดปกาศิต 
ลมเฉื่อยระเรื่อยฉิว     ไผ่ทิววะไหวทาบ
มือแม่สิกำซาบ     ลูบไล้และไล่ยุง
หนังตาน่ะเริ่มตก     ซุกอกซะอิ่มพุง
กายแม่เสมือนมุ้ง     กางโอบจะป้ององค์
นั่งค้อมเพราะกล่อมขับ     ขานศัพทสังคีต
เรไรและจังหรีด     เลิกพลอด ณ พฤกษ์พง
น้ำค้างก็ขาดเก็จ     ทิ้งเม็ดผลึกลง
เสียงแม่สิมั่นคง     เมตตา ณ ราตรี

ผู้เขียน    : คมทวน คันธนู
จำนวน    :  ๑๑๒ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์    : ฉับแกระ
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    : กุมภาพันธ์ ๒๕๓๑

คมทวน คันธนู คือนามปากกาของ ประสาทพร ภูสุศิลป์ธร
เขาเป็นกวี นักเขียนเรื่องสั้น บทความและนวนิยาย
โดยบทกวีชุด นาฎกรรมบนลานกว้าง
ได้รับรางวัล วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (รางวัลซีไรต์) ปี พ.ศ. ๒๕๒๖

.



แด่ความรักอันงดงาม


วรรณกรรมบาดแผล
นวนิยายสะท้อนแง่คิดความรัก ความหวัง และการแสวงหาของคนหนุ่มสาวยุค ๑๔ ตุลา
แด่ความรักอันงดงาม ไม่ใช่ชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง
เป็นเรื่องปรุงแต่งขึ้นจากชีวิตของหนุ่มสาวในยุคแสวงหา
ที่ได้เข้าไปร่วมในขบวนการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมของนักศึกษาและประชาชนยุค ๑๔ ตุลาคม ปี ๒๕๑๖
ขณะเขียนหนังสือเล่มนี้ก็เขียนในป่า ใช้เวลาเขียนไม่ถึงเดือน
ก็เหมือนงานฝึกหัด เพราะไม่เคยเขียนเรื่องยาวมาก่อน
ว่าที่จริงก็มีอยู่เรื่องเดียว เพราะไม่ได้เขียนเรื่องอื่นๆ อีกเลย

แด่ความรักอันงดงาม


โอ้ ความรักจักงามดั่งใฝ่ฝัน
เมื่อรักนั้นเป็น เป็นพลังร่วมแรงใจ
ปลุกความหวังปลุกเร้าร่วมทางไกล
ร่วมก้าวไป สังคมอันแสนงาม...

ผู้เขียน    : วิสา คัญทัพ
จำนวน    :  ๒๙๖ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์    : ดอกหญ้า
พิมพ์ครั้งที่    : ๒
เดือนปีที่พิมพ์    : มกราคม ๒๕๓๗

***


สุนทรีวิวาทะกวี

นี่คือบทกวีของพี่ใหญ่วงการเพลงเพื่อชีวิต น้าหงา-สุรชัย จันทิมาธร ที่แพร่สะพัดในโลกออนไลน์
ในวันที่ ๒๖ มิถุนายนปีนี้ ทั้งยังเป็นวันสุนทรภู่ด้วย

       ขอเพียงศาลแห่งสีที่เคารพ
       สีต้องใช้ไม่ครบกระบวนสี
       มีกลุ่มคนผูกขาดในชาตินี้
       ยึดสีแดงไปย่ำยีเป็นของตน
       ทำให้สีแดงแย่มีแต่ยุ่ง
       จะแต่งปรุงงานศิลป์ก็สับสน
       ศิลปินเดือดร้อนเกินจะทน
       เพราะสีแดงถูกปล้นขโมยไป
       เอาสีแดงคืนมาให้ข้าเถิด
       ก่อนจะเกิดสงครามห้ามไม่ได้
       ทุกวันนี้พวกข้าไม่กล้าใช้
       เพราะว่าใจไม่มีให้สีแดง...

พลันที่บทกวีของน้าหงาปรากฏ คนรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง วิสา คัญทัพ 
ก็ได้เขียนบทกวีออกมาตอบโต้ทันควัน

       ขอเรียนศาลเลือกข้างสีที่ไม่เคารพ
       สีไม่ครบเพราะถูกใช้เติมใส่สี
       ไม่ระบายเลือดไพร่หาไม่ดี
       สาดกระสุนส่องวิถีดับชีวิต
       สีแดงคือเลือดมหาประชาชน
       ผู้ทุกข์ทนคนไทยผู้ไร้สิทธิ์
       ใช่คนปล้นสีไปไร้ความคิด
       เขาถูกปลิดชีพเชือดจนเลือดริน
       กระหายดื่มสีแดงแห่งเลือดข้น
       จึงไล่ยิงกลางถนนคนใจหิน
       เนาวรัตน์สุรชัยไม่ได้ยิน
       จึงลืมดินไม่มีใจให้สีแดง


เอะ... เรื่องหนังสือมือสอง ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น
เพียงอยากให้อ่านสำนวนบทกวีกัน

.



อลินา


หนังสือมือสองเล่มนี้เป็นผลงานของ อนาอิส นิน นักเขียนหญิงชาวฝรั่งเศส
ซึ่งมีชื่อเสียงมากในแง่ของการเป็นกระบอกเสียงของเธอ
ทั้งยังแสดงความเข้าใจที่ลึกซึ้งอันเป็นสาระสำคัญทางความรู้สึกของผู้หญิง
ผลงานของเธอเคยตีพิมพ์ในสวีเดน, เยอรมัน, ญี่ปุ่น, สเปน, ฮอลแลนด์,
ฝรั่งเศส, อินเดีย, อังกฤษ, อเมริกา และไทย
อลินา ซึ่งถือเป็นเรื่องเด่นและยาวที่สุดในเล่มนี้แล้ว
ยังประกอบด้วยเรื่องสั้นอีโรติกคลาสสิกอีก ๗ เรื่องด้วยกัน
โดยผลงานทั้งหมดเคยลงตีพิมพ์ในนิตยสาร สตาร์ แอนด์ สไตล์  มาแล้ว

อลินา


ผู้เขียน    : อนาอิส นิน
ผู้แปล    : ภควัฒน์
จำนวน    :  ๑๔๔ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์    : บ้านหนังสือ
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    :  ธันวาคม ๒๕๓๗

นักเขียนอีโรติกอย่างอนาอิส นิน ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกว่า...
เป็นราชินีของงานเขียนอีโรติกที่สร้างสรรค์ได้อย่างสวยงามและลึกซึ้ง

อนาอิส นิน (Anaïs Nin) เกิดเมื่อปี 1903 ที่ปารีส และเสียชีวิตในเดือนมกราคม ค.ศ. 1977
ในข่าวการมรณกรรมของเธอในนิวส์วีค อนาอิสได้รับการสรรเสริญว่าเป็น
"หนึ่งในนักเขียนที่สำคัญที่สุดของวรรณกรรมร่วมสมัย"

หากสนใจหนังสือมือสองเล่มนี้ สั่งซื้อได้ที่ อลินา

.

อยากอมทุกข์นักใช่มั้ย


หนังสือมือสองเชิงจิตวิทยาเพื่อพัฒนาชีวิตจากผู้ที่ใช้อารมณ์ขันมองโลกในแง่ร้ายอย่างสุดๆ
จากเรื่อง How To Totally Unhappy in a Peaceful World ของ Gil Friedman
อยากอมทุกข์นักใช่มั้ย : คู่มือทรมานชีวิตฉบับสมบูรณ์
เป็น How To ที่ไม่ต้องอาศัยวิธีการหรือพื้นฐานซับซ้อน ไม่ต้องมีพิธีรีตองในการเข้าถึง
เพราะเป็น How To ที่ง่าย ตรง แรง และสามารถหัวเราะให้กับความทุกข์ของตัวเองได้ในที่สุด

อยากอมทุกข์นักใช่มั้ย

หนังสือมือสอง เล่มนี้มีเนื้อหาที่มองความทุกข์ด้วยอารมณ์ขัน
ทั้งเขียนยั่วยุว่าหากท่านอยากมีความทุกข์ให้ปฏิบัติตน ดังนี้
• จงเพ่งมองเฉพาะ ความล้มเหลวในชีวิตของท่าน หากท่านต้องการให้ชีวิตหดหู่
จงหยิบเอาข้อผิดพลาดเล็กๆ มาเฝ้าพิจารณาอย่างสม่ำเสมอเพื่อทวีความตรอมตรม
• กวนชีวิตให้ขุ่นตลอดเวลา ด้วยกิจกรรมไม่รู้จบ เมื่อท่านอยู่เปล่าๆ ไม่มีอะไรทำ
เราจะต้องเป็นนักเสพติดกิจกรรม มีเรื่องนัดหมายจนไม่สามารถทำไปในแต่ละวันได้สำเร็จ
• สถิติอยู่ในความกดดันและความตื่นเต้น จะทำอะไรต้องท้าทายแข่งกับเวลา
 หรือสร้างสถานการณ์ข้อบังคับจะทำไม่เบื่อหน่ายเงียบเหงาและฮอร์โมนอะดรีนาลินจะได้หลั่งสุดๆ
• ก่อกวนชีวิติให้กระตุกไม่เป็นส่ำ ด้วยการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้ขาดระบบ ไร้วินัยเสียบ้าง
เช่น นอนตื่นสาย กลับบ้านดึกดื่น
• บริโภคให้มากที่สุด ผลิตให้น้อยที่สุด เราต้องคอยมองว่ามีสินค้าชนิดใดใหม่
และต้องรีบซื้อมาเป็นของเราถึงมันจะล้นตู้ ล้นบ้านก็ช่างปะไร
หาหนี้มากองท่วมหัว ยิ่งมากเท่าใดก็ยิ่งดี
เราควรมีบัตรเครดิตหรือกระโจนเข้าไปในหล่มหนี้และฝังตัวอยู่ในนั้น

หนังสือเล่มนี้ยังมีกฎและวิธีการอีก 20 ข้อที่หากปฏิบัติแล้วจะทำให้ท่านมีความทุกข์ได้มาก
และทำให้รู้สึกขุ่นมัว เกลียดตัวเอง จะว่าไปแล้วผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ต้องการเตือนให้ผู้อ่านทราบว่า...
ท่านกำลังคว้าความทุกข์มาใส่ตัวเองแถมยังหมกมุ่นอยู่กับมัน
ถ้าอย่างนั้นเราควรจะกำจัดความทุกข์ได้อย่างไร

ผู้เขียน    : กิล ฟรายด์แมน
ผู้แปล    : นพดล เวชสวัสดิ์
จำนวน    :  ๑๖๐ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกพิเศษ
สำนักพิมพ์    : มติชน
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    :  ๒๕๔๗

"เชื่อเถอะครับ...เมื่อใดที่คนสงบอิ่มสุขเปลี่ยนเป็นคนอมทุกข์
คนพวกนี้จะบรรยายความทุกข์ทรมานได้ถึงแก่น จะเปิดปากพูดไม่ยั้ง
ดินแดนอมทุกข์เปิดอ้าต้อนรับให้คนพวกนี้เสพความทุกข์ทรมานโดยไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะ"
                                                                                            - กิล ฟรายด์แมน -

.

22 ส.ค. 2555

มุ่งสู่ความขาวของหิมะ

บันทึกการเดินทาง : มุ่งสู่ความขาวของหิมะ
งานเขียนเชิงบันทึกอันเปี่ยมด้วยคุณค่าทางความคิด
โดยบันทึกการเดินทางฉบับนี้ ได้เขียนขึ้นในระหว่างการแรมทางไปในเทือกเขาหิมาลัย
เพื่อจาริกแสวงบุญไปยังมุกตินาถ
ตามเส้นทางโบราณซึ่งบรรดาสาธุ นักบวช ฤษี และโยคีจากอินเดียและเนปาลได้ใช้เดินทางมานับพันๆ ปี
การเดินเท้าไปบนเส้นทางศักดิ์สิทธิ์สายนี้ จึงเปรียบเสมือนการค้นหาเพื่อก้าวล่วงเข้าสู่ภายในตนเองของมนุษย์
ซึ่งการแสวงหานี้ตลอดทุกยุคทุกสมัยล้วนมีความหมายเดียวกัน
นับเป็น หนังสือมือสอง อีกเล่มที่น่าเก็บสะสมในชั้นหนังสือ

 มุ่งสู่ความขาวของหิมะ


ผู้เขียน    : พจนา จันทรสันติ
จำนวน    :  ๑๓๔ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์    : คบไฟ
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    :  เมษายน ๒๕๓๖


พจนา จันทรสันติ ชื่อนี้ย่างก้าวบนโลกหนังสือมายาวนาน
ไม่ว่าจะในฐานะนักแสวงหา นักเขียน กวี นักแปล และบรรณาธิการ
เขาเลือกที่จะทำงานอยู่อย่างเงียบๆ โดยไม่ค่อยปรากฏตัวต่อสาธารณชน
จึงมีไม่กี่ครั้งที่เขายอมให้สัมภาษณ์ผ่านนิตยสารบางเล่ม แต่นั่นก็น้อยเต็มที
ซึ่งผลงานหนังสือเกือบ ๑๐๐ เล่มของพจนา จันทรสันติ
ในรูปของงานเขียน งานแปล หรืองานบรรณาธิการ เป็นที่จดจำของนักอ่านมาแล้วหลายรุ่น
อาทิ ขลุ่ยไม้ไผ่, วิถีแห่งเต๋า, กุญแจเซน, ชัยชนะ, ในท่ามกลางอารยธรรมผุกร่อน, ในอ้อมกอดหิมาลัย, 
แด่หนุ่มสาว, ขุนเขายะเยือก, ดอกไม้ไม่จำนรรจ์, ชัมบาลา, อนาคตอันเก่าแก่, 
ดินแดนแห่งนกอินทรี และความเรียงสี่ชิ้นของธอโร เป็นต้น

.

หนังสือมือสอง และหนังสือเก่า


เป็นการเรียกชื่อของหนังสือเก่า หรือมีสภาพต่างจากหนังสือปกติ เพื่อให้ทราบว่ามีการใช้งานแล้ว
ลักษณะของหนังสือมือสองโดยหลักๆ แล้วจะมี 2 ลักษณะคือ "หนังสือมือสอง" และ "หนังสือเก่า"
แต่มักจะเรียกรวมๆ ว่า "หนังสือมือสอง" เพราะจะเป็นการแสดงถึงหนังสือที่มีผู้อ่านแล้วอย่างน้อยหนึ่งราย

หนังสือมือสอง ในกลุ่มที่ไม่ใช่หนังสือเก่า ซึ่งมีการซื้อขายตามร้านหนังสือมือสองนั้น
บางครั้งเป็นหนังสือที่ยังคงมีขายในท้องตลาด หรือเพิ่งวางตลาดในร้านหนังสือใหม่เมื่อไม่นาน
เมื่อนักอ่านสมประสงค์ โดยการอ่านจบแล้วนำมาขายทันที
ซึ่งลักษณะนี้เรียกได้ว่า "หนังสือมือสอง" แต่ไม่ใช่ "หนังสือเก่า"

หนังสือเก่า ในกลุ่มนี้ มีการจัดพิมพ์มานานแล้ว ซึ่งนักสะสมได้จัดเก็บมาเป็นเวลานาน
ซึ่งหาไม่ได้ในร้านหนังสือใหม่อีกแล้ว โดยมักจะซื้อหากันตามคุณค่าของเนื้อหา ผู้แต่ง
ระยะเวลาการพิมพ์ และครั้งที่พิมพ์ จึงมักจะเห็นหนังสือลักษณะนี้บางเล่มซื้อขายกันในราคาที่สูงมาก
เพราะเป็นที่ต้องการของนักอ่าน และนักสะสมจำนวนมาก
หรือบางเล่มก็ราคาถูกมากเพราะไม่เป็นที่สนใจของนักอ่านและนักสะสม

ลักษณะทั่วไป
หนังสือมือสองเป็นลักษณะเฉพาะของรูปแบบหนังสือที่มีการมอบให้ต่อๆ กัน
หรือเป็นหนังสือเก่าที่มีการนำมาใช้ซ้ำกันไปเรื่อ ๆ หลายคน
หรือมีการขายต่อให้ร้านที่รับซื้อ เป็นต้น โดยสภาพแล้วมักขึ้นอยู่กับการจัดเก็บรักษาของนักอ่านแต่ละราย

ตลาดหนังสือมือสอง
ร้านหนังสือมือสองมีลักษณะโดดเด่นแยกย่อยออกมาดังต่อไปนี้...

ร้านหนังสือเก่า
ร้านหนังสือลักษณะนี้ จะสรรหาหนังสือเก่า ถึงเก่ามากๆ มานำเสนอ
เพื่อขายให้แก่ผู้สนใจเฉพาะกลุ่มซึ่งส่วนมากจะเป็นนักสะสม
เพราะหนังสือลักษณะนี้บางเล่มไม่สามารถเปิดอ่านได้อีกแล้ว แต่ยังคงสภาพของหนังสือไว้
เพื่อให้นักสะสมมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ครอบครอง
ดังนั้นหนังสือลักษณะนี้บางเล่มซื้อขายกันหลักหมื่น หรือหลักแสน หรือมากกว่านั้น
ร้านหนังสือประเภทนี้ ท่านอาจจะเห็นหนังสือรุ่นเก่าๆ คงค้างอยู่ในร้านเป็นระยะเวลานาน
เพราะบางครั้งผู้ค้าเสาะหามาได้ในราคาต่ำๆ
และกำหนดราคาตามคุณค่าของเนื้อหา หรือคุณสมบัติเพื่อรอผู้ซื้อเฉพาะกลุ่มที่ต้องการจริงๆ
ซึ่งผู้ค้าพร้อมที่จะคงสต็อกไว้ เพราะเห็นว่าถึงแม้คงสต็อกไว้นานวันก็ยังคงคุ้มค่า

ร้านหนังสือมือสอง
ร้านหนังสือประเภทนี้ จะเป็นร้านหนังสือที่รับซื้อหนังสือมือสอง ซึ่งส่วนมากแล้วจะเน้นในการคัดสรรคุณภาพ
เพราะหนังสือที่นำมาซื้อขายในร้านหนังสือมือสองจำนวนมากนั้นยังคงมีซื้อขายอยู่ทั้งในตลาดหนังสือใหม่
และยังคงมีจำนวนมากในการครอบครองของนักอ่านและนักสะสม
หนังสือเหล่านี้ราคาจะไม่สูงมาก จะไม่แพงไปกว่าราคาปกติที่ระบุในปกหนังสือ
เพราะถ้าขายแพงมากนักอ่านก็จะไปหาซื้อที่ร้านหนังสือใหม่ดีกว่า แต่จะขายในปริมาณมาก
และเป็นหนังสือที่หมุนเวียนเร็วซึ่งส่วนมากจะเป็นหนังสือเพื่อความบันเทิง เช่น นิยายที่ได้รับความนิยม
หรือหนังสือการ์ตูนญี่ปุ่น ที่มีการซื้อขายกันง่ายๆ และหมุนเวียนได้รวดเร็ว

ร้านหนังสือมือสองแบบผสม
ร้านหนังสือประเภทนี้ จะไม่แยกแยะการทำตลาดออกมาชัดเจน
แต่จะมีหนังสือให้เลือกผสมผสานกันทั้งหนังสือมือสองที่ขายในราคาถูก
และจะสรรหาหนังสือหายากมานำเสนอแก่ลูกค้าด้วย เรียกว่าจัดหาแบบไหนมาได้
ก็นำมาขายซึ่งระยะหลังก็จะแบ่งโซนชัดเจนภายในร้านออกมา

หนังสือตกรุ่น
ความจริงหนังสือลักษณะอย่างนี้ ไม่ควรจะเรียกเป็นหนังสือมือสองแต่ประการใด
แต่เนื่องจากในการทำตลาด มักจะนำมาขายในราคาที่ถูกมาในลักษณะเลหลัง
จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากเข้าใจว่าหนังสือเหล่านั้นคือหนังสือมือสอง
ร้านหนังสือเหล่านี้ มักจะรับสัมปทานมาจากสำนักพิมพ์เป็นจำนวนมาก
โดยนำมาขายราคาถูก ซึ่งจะเห็นได้ตามแผงหนังสือนิทรรศการบนห้างสรรพสินค้า ตามตลาดนัด
ซึ่งแหล่งหนังสือลักษณะนี้แหล่งใหญ่ได้แก่ ย่านผ่านฟ้า สวนจตุจักร เป็นต้น

ระดับคุณภาพของหนังสือมือสอง

- ดีเยี่ยม
คือ หนังสือที่มีสภาพดี มีการจัดเก็บอย่างเหมาะสม มีลักษณะใกล้เคียงกับหนังสือใหม่ทุกประการ
ถึงแม้หนังสือบางลักษณะมีการจัดพิมพ์มายาวนาน
แต่ได้รับการรักษาอย่างดีจะทำให้หนังสือนั้นมีคุณค่าสูงขึ้น
- ดี
คือ หนังสือที่มีสภาพค่อนข้างดี โดยตัวอักษรภาพ กระดาษ อาจจะไม่เทียบเท่ากับของใหม่
แต่อาจจะเกิดมีข้อตำหนิ หรือข้อบกพร่องอันเกิดจากการจัดเก็บ
หรือเกิดเหตุบางประการที่ทำให้หนังสือชำรุดได้ หรือบางครั้งเป็นหนังสือที่ได้รับการปรับปรุงแก้ไขมาอย่างดี
โดยมืออาชีพระดับเดียวกับบรรณารักษ์ฝีมือดี
ซึ่งหากเป็นหนังสือที่มีเนื้อหา ประวัติผู้แต่ง ประวัติการจัดพิมพ์ที่ดี เป็นที่น่าสนใจ
อาจจะทำให้นักสะสมมองข้ามสภาพที่อาจจะมีข้อบกพร่องไปบ้าง
- พอใช้
หนังสือที่สภาพอาจจะไม่สมประกอบ ปกหลุด หน้าหลุด ตัวอักษรอาจจะเลือนรางและมีสภาพโทรมอยู่บ้าง
แต่หากมีเนื้อหาที่ดี ประวัติผู้แต่งที่ดี ประวัติการจัดพิมพ์ที่ดี และพิจารณาดูแล้วอาจจะนำมาปรับปรุงได้
อาจจะมีนักสะสมยอมรับที่จะเลือกหามาทดลองปรับปรุงแก้ไขดู
แต่คุณภาพของหนังสือเหล่านี้จะทำให้ด้อยค่าไปมากทีเดียว
- แย่
หนังสือที่มีสภาพที่จัดว่าแย่ ส่วนมากมักเกิดจากนิสัยการจัดเก็บของนักอ่านที่ไม่รู้จักรักษา
หรืออาจจะไม่รู้วิธีรักษา หรือบางครั้งอาจจะเกิดเหตุที่ทำให้หนังสือชำรุดเกินกว่าจะเยียวยา
เช่น โดนน้ำ ปลวกกิน ไฟไหม้ เป็นต้น
หนังสือลักษณะนี้ สุดท้ายก็ต้องเป็นขยะซึ่งเป็นสิ่งน่าเสียดาย
และในบางครั้งเป็นเหตุให้คุณค่าของตัวหนังสือที่ผู้แต่งดีๆ แต่ละยุคต้องสูญหายไป



ความยากง่ายในการเสาะหาหนังสือมือสอง
ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดมูลค่าราคาหนังสือและคุณค่าทางจิตใจ
หนังสือบางเล่มยังหาได้อยู่
บางเล่มอาจจะไม่สามารถหามาทดแทนได้จึงมีการจัดระดับ ดังนี้



- หนังสือหายากมาก
หนังสือมีความหายาก ถึงยากมาก ได้แก่
หนังสือที่มีประวัติการผลิตและจัดพิมพ์ในระดับตำนาน
หรือเหตุผลอื่นๆ เช่น
๑. มีประวัติเป็นหนังสือที่จัดพิมพ์ครั้งแรก เช่น หนังสือพิมพ์ฉบับแรกในประเทศไทย,
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ/เดลินิวส์ ฉบับที่ ๑ ปีที่ ๑ เป็นต้น
หรือหนังสือใดๆ ก็ตามที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ซึ่งหากมีผู้ที่เก็บรักษาในฉบับแรกๆ
หรือการจัดพิมพ์ครั้งแรก ย่อมจะมีคุณค่าสูงมากจนอาจจะไม่สามารถประเมินค่าได้
๒. พิมพ์เนื่องในวโรกาสพิเศษ เช่น หนังสือประมวลภาพพระมหากษัตริย์ในวโรกาสต่างๆ,
หนังสือประมวลภาพประวัติศาสตร์ ทั้งดีและร้าย
เช่น การชุมนุม 6 ตุลา/14 ตุลา (บางชุด), ประมวลภาพซึนามิ (บางชุด) เป็นต้น
๓.  หนังสือที่มีประวัติผู้แต่งผู้เขียนคุณภาพและประวัติดี เช่น หม่อมราชวงศ์คึกฤทธิ์ ปราโมช,
ป. อินทรปาลิต ซึ่งหนังสือเหล่านี้รวมถึงหนังสือที่ได้รับลายเซ็นจากนักเขียนชื่อดังต่างๆ
ย่อมทำให้เพิ่มคุณค่าของหนังสือเหล่านั้นมากยิ่งขึ้น
๔.  หนังสือที่มีเนื้อหาเป็นที่ร่ำลือ และโด่งดังในกลุ่มนักอ่าน เช่น เพชรพระอุมา, สามก๊ก
หรือในบางครั้งแม้แต่หนังสืออ่านเล่น เช่น การ์ตูนญี่ปุ่นหลายๆ เรื่อง
ยังได้รับการจัดกลุ่มออกเป็นหนังสือหายากระดับเกรด A หรือห้าดาว (หายากมาก) ก็มี
เช่นข้าชื่อ โคทาโร่, ซุปเปอร์ด็อกเตอร์ K เป็นต้น

- หนังสือหายาก
หนังสือเหล่านี้อาจจะเป็นหนังสือที่นักสะสม หรือนักอ่านพอจะได้เห็นประปราย
ซึ่งบางครั้งอาจจะมีคุณสมบัติคล้ายๆ หนังสือหายากระดับ "หายากมาก"
แต่อาจจะมีการจัดพิมพ์ ทำซ้ำ จัดทำใหม่ครั้งที่สอง-สาม-สี่
ซึ่งถึงแม้บางครั้งเป็นเนื้อหาเดียวกัน ผู้แต่งเดียวกัน สำนักพิมพ์เดียวกัน
แต่อาจจะยังไม่พึงพอใจสำหรับนักสะสมบางรายได้
ซึ่งนับได้ว่าหนังสือลักษณะนี้ย่อมจะถูกจัดเป็นหนังสือหายากในระดับธรรมดาๆ ไป

- หนังสือทั่วๆ ไป
หนังสือกลุ่มนี้นึกภาพกันก็คือหนังสือที่มีอยู่ทั่วๆ ไปในท้องตลาด ซึ่งอาจจะเลือกซื้อหาได้ง่าย
อาจจะรวมถึงหนังสือในลักษณะที่ร้านหนังสือใหม่ก็ยังทำการซื้อขายไม่หมดล็อตของการจัดพิมพ์
หรืออาจจะพิมพ์ซ้ำจัดทำใหม่อยู่เรื่อยๆ จนเป็นหนังสือมือสองที่สามารถหาได้ง่ายๆ
หรือบางครั้งเลยเถิดไปในลักษณะของการล้นสต็อกทั้งร้านหนังสือใหม่ และหนังสือมือสองไปพร้อมๆ กัน


ข้อมูลจากวิกิพีเดีย