9 ก.ย. 2555

แจ้งการย้ายบล็อก

บล็อกนี้ หรือ http://thai-usedbook.blogspot.com จากนี้คงงดอัพเดทแล้ว
ทว่าจะไปหมั่นอัพเดทอีกบล็อกหนึ่งแทน ตอนนี้กำลังไล่เก็บโพสต์เก่าๆ ของที่นี่อยู่

ท่านใดที่สนใจหนังสือมือสอง ก็สามารถตามไปดูได้ที่...
http://see-books.blogspot.com 

หรือไปดูที่ร้านไลฟ์บุ๊กก็ได้เช่นกัน
ร้านหนังสือมือสอง Life Book


จึงบอกกล่าวเพื่อให้ทราบ

ขอขอบพระคุณทุกท่านอย่างสุดซึ้ง

.

6 ก.ย. 2555

โลกส่วนตัวของศิลปินอัจฉริยะ พีคัสโซ่


โลกส่วนตัวของศิลปินอัจฉริยะ พีคัสโซ่ หนังสือที่บอกให้เรารู้ว่า
ภายใต้ชื่อ พีคัสโซ่ (Picasso) ศิลปินที่ได้รับการยกย่องเป็นอัจฉริยะแห่งงานศิลป์นั้น
เขามีตัวตนและมีวิถีชีวิตที่งดงามเพียงใด ภายใต้ดวงตากลมโต ดุดัน น่ากลัวคู่นั้นของเขา
ซ่อนเร้นจิตใจที่อ่อนโยนต่อเด็กและสัตว์เลี้ยงในบ้านเอาไว้
ด้วยบทบัญญัติในบ้านของเขา คือห้ามเคลื่อนย้ายสิ่งของทุกชนิด สิ่งของทุกอย่างจะต้องอยู่ที่เดิมของมัน
การเคลื่อนย้ายสิ่งของให้ผิดที่ผิดทาง ถือว่าเป็นการทำลายองค์ประกอบให้เสียหาย
แต่บัญญัติดังกล่าวมิได้ครอบคลุมถึงเด็กและสัตว์ในบ้าน
เพราะเขาถือว่าเด็กทั้งหลายย่อมเกิดมาเพื่อจะทำอะไรของตนได้อย่างเสรี
เมื่อพวกเด็กมาเคลื่อนย้ายสิ่งของหรือกระทั่งรูปเขียนของเขา
พิคัสโซ่ก็จะพูดเพียงว่า “ดี ดี” หรือไม่ก็ “เข้าท่าดี” เท่านั้นเอง

Pablo Ruiz Picasso
หนังสือมือสองเล่มนี้เป็นหนังสือที่เขียนโดยช่างภาพชื่อดังระดับโลก เดวิด ดักลาส ดันแคน
แปลโดย ณรงค์ จันทร์เพ็ญ

สิ่งหนึ่งที่หนังสือบอกกับเรามากกว่าความเป็นศิลปินชื่อดังก็คือ ความคิดและตัวตนของพีคัสโซ่
ที่ทำให้เขาเป็นอัจฉริยะแห่งงานศิลป์ที่ผู้คนทั่วโลกยอมรับด้วยความคิดที่ว่า...
“ศิลปินที่แท้จริงไม่มีใครที่พึงมีคุณสมบัติของการหยุดนิ่ง ทั้งทางความคิดและการลงมือปฏิบัติ 
เพราะหากเป็นเช่นนั้นแล้วความเป็นศิลปินของผู้นั้นก็จะค่อยๆ 
ถูกกร่อนกัดด้วยเขี้ยวคมของกาลเวลาให้ดับสิ้นไปอย่างน่าเสียดาย...”

ผู้เขียน : เดวิด ดักลาส ดันแคน
ผู้แปล : ณรงค์ จันทร์เพ็ญ
จำนวน :  ๘๐ หน้า
ขนาด : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์ : ไรเตอร์
พิมพ์ครั้งที่ : ๒
เดือนปีที่พิมพ์ : มกราคม  ๒๕๓๗

เมื่อเสร็จงานแล้ว ข้าพเจ้า (เดวิด ดักลาส ดันแคน) ถามพีคัสโซ่ว่า...
มีภาพใดที่เขาต้องการจะไม่ให้ใช้ในหนังสือบ้างหรือไม่
พีคัสโซ่ตอบข้าพเจ้าด้วยอาการฉงนฉงายว่า
"ทำไมคุณจึงคิดอย่างนั้น นี่มันเป็นงานของคุณเองแท้ๆ
รูปที่ถ่ายก็เป็นรูปตามที่คุณมองเห็นผมเอง มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ นี่นา"

.

1 ก.ย. 2555

เรียงความ


ศิลปินเขียนรูปใช้สีเป็นถนนสำหรับการเดินทาง คนตาบอดจินตนาการถึงสีที่อยากจะเห็น
ดอกไม้ได้สีมาจากอากาศ ดิน และน้ำ 
หนุ่มสาวที่อยู่ในห้วงความรัก เขาบอกว่าเห็นโลกเป็นสีชมพู 
แต่โลกวันนี้กำลังมืดมิดเป็นสีดำเพราะหัวใจของผู้คนแล้งไร้น้ำใจ


เมื่อมีโลกครั้งแรกๆ สีสันเป็นเช่นนี้เลยหรือเปล่านะ
และสมมุติว่าโลกมีแต่สีขาวดำ ใครบางคนถามว่าใจมนุษย์จะงดงามหรือตกต่ำลง
และเลือดจะไม่เป็นสีแดงอีกแล้วใช่ไหม

งานศพ-สีดำ งานแต่งงาน-สีขาว ธรรมชาติ-สีเขียว
วันอาทิตย์-สีแดง สงคราม-สีเลือด น้ำตาสีอะไร?
คนเราร้องไห้เสมอในยามทุกข์โศก และคนเศร้ามักมองไม่เห็นว่าสีใดๆ สวย

โลกมีการแสดงใหญ่เล็กมากมาย สีเป็นการแสดงอย่างหนึ่งของโลก
บางสีทำให้คนเรารัญจวน บางสีอิ่มไปด้วยความเศร้า
อีกบางสีผสมกันไปมาชวนให้รู้สึกว่าบ้าคลั่ง
สีคงอยู่เฉยๆ อารมณ์ต่างหากที่เดินทางเข้าไปหา...

ทุกอย่างเปลี่ยนสีเมื่อถึงเวลาอันสมควร
เส้นผมของคนเรามีสีขาวรออยู่ แสงแดดในแต่ละฤดูมีสีที่ไม่เท่ากัน
ความฝันของคนชรามีสีจืดชืดกว่าคนหนุ่มสาว
รุ้งกินน้ำอิ่มแล้วจึงมีสีทั้งเจ็ดอยู่ในตัว
คนในกรุงเทพฯ ชอบสีเขียวของไฟจราจรมากกว่าสีแดง
คนต่างจังหวัดชอบสีคล้ำๆ ของเมฆ
เพราะไม่นานฝนอาจตกลงมาเพื่อพลิกแผ่นดินให้ชุ่มฉ่ำ...

(เนื้อเรื่องบางตอนจากหนังสือมือสองเล่มนี้)

เรียงความ / ญามิลา


ผู้เขียน    : ญามิลา (วิรัตน์ โตอารีย์มิตร)
จำนวน    :  ๒๐๖ หน้า
ขนาด    : ๑๖ หน้ายกธรรมดา
สำนักพิมพ์    : ไม้ไต่เขียน
พิมพ์ครั้งที่    : ๑
เดือนปีที่พิมพ์    : สิงหาคม ๒๕๔๔


ผมเห็นว่าเขาแฝงอุดมคติไว้ในประโยคที่แสร้งเสียดสี
เขาเร้นจรรยาบรรณไว้ในวลีที่ทำทีว่าเย้ยหยัน... (อาจินต์ ปัญจพรรค์)

"ญามิลา" ผมชอบนามปากกานี้ พอๆ กับสิ่งที่เขาเขียน เพราะเขาเขียนขึ้นจากสิ่งที่เขารู้สึกและสัมผัส
หรือเป็นการผสมผสานขึ้นระหว่างความเป็นจริงกับจินตนาการ จากบทเพลง บทกวี... (ชีวี ชีวา)

วิธีหยิบเอา 'ความ' มา 'เรียง' ของญามิลา มีจังหวะและน้ำเสียงเฉพาะตัว 
คนอ่านหนังสือจะพบความนิ่งเนียนและลื่นไหลในเรียงความของเขา... (อธิคม คุณาวุฒิ)

.